HOME
ADD ITEM FOR SALE
SEARCH
CONTACT
iamsell.com upload file
หมวดหมู่สินค้า
ID
12029
หัวข้อประกาศ
Password สำหรับแก้ไข
***
ราคาสินค้า
ข้อมูลสินค้า
..............................................................................................................................
การปลูกไม้เศรษฐกิจ
ป่าไม้แบ่งออกตามการเกิดได้สองอย่างคือ ป่าธรรมชาติ และป่าปลูกหรือสวนป่า วัตถุประสงค์หลักของการปลูกสร้างสวนป่ามีสามประการคือ เพื่อการอนุรักษ์ (สวนป่าอนุรักษ์) เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ สวนป่านันทนาการ) และเพื่อผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (สวนป่าเศรษฐกิจ) สวนป่าทั้งสามประเภทนี้มีบทบาทความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะประเภทสุดท้ายนอกจากจะสนองวัตถุประสงค์หลักแล้ว ยังสนองวัตถุประสงค์รองในด้านการอนุรักษ์และรักษาไว้ซึ่งความเป็นพื้นที่สีเขียวควบคู่กันไปดังกล่าวแล้วอีกด้วย
ในทางเศรษฐกิจ สวนป่าเศรษฐกิจมีบทบาทต่อเศรษฐกิจของประเทศสูงพอสมควร ปี พ.ศ. 2544 ประเทศไทยส่งออกเครื่องเรือนไม้ซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากไม้ยางพารา มีมูลค่าสูงถึง 42,631 ล้านบาท และอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไม้ก็สร้างแรงงานได้ราว แสนคน ทั้งนี้ยังไม่รวมไม้เพื่อการพลังงานซึ่งมีความต้องการ ( พ .ศ. 2540) ราว 20 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการไม้เพื่อการก่อสร้างซึ่งนำเข้ามาในปี พ.ศ. 2543 มีมูลค่าประมาณ 16,020 ล้านบาท อันจะเห็นได้ว่าสวนป่าเศรษฐกิจเป็นธุรกิจระดับแสนล้านบาททีเดียว
ในการปลูกสร้างสวนป่าเศรษฐกิจนั้น คำถามที่มักจะได้ยินอยู่เป็นประจำก็คือ ควรจะปลูกไม้อะไรดีหรือไม่ก็ถามว่า ไม้ ปลูกเป็นสวนป่าเศรษฐกิจได้หรือไม่ แต่ก่อนที่จะตอบคำถามดังกล่าวให้ถูกต้องตามหลักวิชาวนวัฒนวิทยานั้น ผู้ตอบควรจะถามกลับไปอย่างน้อยสองข้อคือ
(1) จะปลูกทำไม ? และ
(2) จะปลูกที่ไหน?
คำถามข้อแรก แม้จะรู้ว่าปลูกเพื่อผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ทว่าไม้แต่ละชนิดสนองความต้องการด้านการใช้ประโยชน์ต่างกัน ไม้สักเหมาะสำหรับใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง ในขณะที่เครื่องเรือนจากไม้ยางพารา มีคุณภาพและราคาด้อยกว่าไม้สัก ไม้สนเขาให้เยื่อกระดาษเส้นใยยาว ส่วนไม้ยูคาลิปตัสเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมชิ้นไม้สับและอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษเส้นใยสั้น นอกจากนี้ คำถามที่ว่าจะปลูกทำไมยังอาจจะมองไปถึงความต้องการผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของผู้ปลูกว่าต้องการในระยะสั้นหรือระยะยาว กล่าวคือ
จะปลูกป่าเศรษฐกิจเพื่อใช้เงินในวันนี้ หรือเพื่อสร้างมรดกไว้ให้ลูกหลานได้เงินในวันหน้า ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงไปถึงคำแนะนำในการเลือกชนิดไม้ปลูกว่าจะปลูกไม้โตช้าหรือไม้โตเร็ว คำว่า ไม้โตเร็ว ในหลักสากลนั้นจะต้องมีความเพิ่มพูนรายปีในรูปของเส้นรอบวงที่ระดับอกไม่น้อยกว่า 4 เซนติเมตร แต่ไม้ในเมืองไทยส่วนใหญ่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วมาก เพราะปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่างๆ เหมาะสมกับการเจริญเติบโต จึงได้กำหนดว่า ไม้โตเร็วจะต้องวัดเส้นรอบวงที่ระดับอกได้ 100 เซนติเมตร เมื่อมีอายุไม่เกิน 15 ปี หรือมีความเพิ่มพูนรายปีในรูปของเส้นรอบวงที่ระดับอกไม่น้อยกว่า 6.67 เซนติเมตร หรือมีความเพิ่มพูนในรูปของเส้นผ่าศูนย์กลางที่ระดับอกไม่ต่ำกว่าปีละ 2.12 เซนติเมตร จากคำจำกัดความที่ว่านี้ ไม้สัก ไม้สนเขา ไม้ยูคาลิปตัส ไม้เพาโลว์เนียและไม้หูช้าง ต่างก็ถือว่าเป็นไม้โตเร็ว เพียงแต่ไม้สักมีอายุรอบหมุนเวียนในการตัดฟันยาวกว่าไม้สี่ชนิดหลัง ดังนั้น แทนที่จะเรียกว่าไม้โตช้าหรือไม้โตเร็ว น่าจะใช้คำว่าไม้ที่มีอายุการตัดฟันสั้นและไม้ที่มีอายุการตัดฟันยาวจะถูกต้องและเหมาะสมกว่า ซึ่งโดยนัยดังกล่าวทำให้สามารถแบ่งไม้ในสวนป่าเศรษฐกิจออกได้ 3 ประเภทคือ
1.ไม้โตเร็วที่มีอายุการตัดฟันสั้น มีเส้นรอบวงที่ระดับอกวัดได้ 100 เซนติเมตร เมื่ออายุไม่เกิน15 ปี และมีอายุการตัดฟันไม่เกิน 10 ปี เช่นไม้ยูคาลิปตัส ไม้เพาโลว์เนียและ ไม้หูช้าง
2.ไม้ที่มีอายุการตัดฟันปานกลาง มีอายุการตัดฟัน 10-30 ปี เช่น ไม้ยางพารา ไม้สนเขา
3.ไม้ที่มีอายุการตัดฟันยาว มีอายุการตัดฟันตั้งแต่ 30 ปี ขึ้นไป เช่น ไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้พยุง
เมื่อมีชนิดไม้เศรษฐกิจที่ต้องการปลูกอยู่ในใจแล้ว และถามว่าควรจะปลูกไม้ชนิดดังกล่าวที่ใดนั้น ก็จำเป็นจะต้องนำเอาปัจจัยต่างๆ หลายประการมาประกอบการพิจารณา อาทิ ตลาดที่จะรองรับไม้ ราคาไม้ สภาพแวดล้อมและ ทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ เช่น ไม้สักจะต้องปลูกในที่ซึ่งความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 800 เมตร ดินควรจะลึก สลายตัวมาจากภูเขาหินปูน มีการระบายน้ำดี
ไม้ยูคาลิปตัสไม่ชอบดินที่มีฤทธิ์เป็นด่างมากๆ หากปลูกเพื่อขายเป็นวัตถุดิบให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมชิ้นไม้สับซึ่งรับซื้อที่หน้าโรงงานตันละประมาณ 1,200บาท สวนป่าก็ควรจะอยู่ห่างจากโรงงานในรัศมีไม่เกิน กิโลเมตร
การปลูกไผ่เพื่อขายหน่อจะต้องคำนึงถึงความอุดมสมบูรณ์ของด
ชื่อ
เบอร์โทร
Email
อำเภอ
จังหวัด
กระบี่
กรุงเทพมหานคร
กาญจนบุรี
กาฬสินธุ์
กำแพงเพชร
ขอนแก่น
จันทบุรี
ฉะเชิงเทรา
ชลบุรี
ชัยนาท
ชัยภูมิ
ชุมพร
ตรัง
ตราด
ตาก
นครนายก
นครปฐม
นครพนม
นครราชสีมา
นครศรีธรรมราช
นครสวรรค์
นนทบุรี
นราธิวาส
น่าน
บึงกาฬ
บุรีรัมย์
ปทุมธานี
ประจวบคีรีขันธ์
ปราจีนบุรี
ปัตตานี
พระนครศรีอยุธยา
พะเยา
พังงา
พัทลุง
พิจิตร
พิษณุโลก
ภูเก็ต
มหาสารคาม
มุกดาหาร
ยะลา
ยโสธร
ร้อยเอ็ด
ระนอง
ระยอง
ราชบุรี
ลพบุรี
ลำปาง
ลำพูน
ศรีสะเกษ
สกลนคร
สงขลา
สตูล
สมุทรปราการ
สมุทรสงคราม
สมุทรสาคร
สระบุรี
สระแก้ว
สิงห์บุรี
สุพรรณบุรี
สุราษฎร์ธานี
สุรินทร์
สุโขทัย
หนองคาย
หนองบัวลำภู
อ่างทอง
อำนาจเจริญ
อุดรธานี
อุตรดิตถ์
อุทัยธานี
อุบลราชธานี
เชียงราย
เชียงใหม่
เพชรบุรี
เพชรบูรณ์
เลย
แพร่
แม่ฮ่องสอน
รูปประกอบการขาย 1
รูปประกอบการขาย 2
รูปประกอบการขาย 3
รูปประกอบการขาย 4
รูปประกอบการขาย 5
รูปประกอบการขาย 6